วิธีการใช้ประโยชน์จากเงินทอนจากบ้านเงินเหลืออย่างชาญฉลาด
บ้านเงินเหลือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง โดยที่ยังมีเงินเหลือใช้หลังจากซื้อบ้าน ซึ่งเงินก้อนนี้เราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต การชำระหนี้เพื่อลดภาระดอกเบี้ย หรือแม้แต่การใช้จ่ายเพื่อเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวัน แต่การจะใช้เงินก้อนนี้อย่างไรให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดนั้น ขึ้นอยู่กับการวางแผนและการจัดการที่ดี มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่เราจะสามารถใช้ประโยชน์จาก "เงินทอน" ก้อนนี้ได้อย่างชาญฉลาด
เทคนิคการใช้คอนโดเงินเหลือสร้างผลตอบแทน
-
ลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ: การนำเงินทอนไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน และต่อยอดเงินก้อนนี้ให้งอกเงยยิ่งขึ้น สินทรัพย์ที่สามารถเลือกลงทุนได้มีหลากหลายรูปแบบ เช่น
-
หุ้น: การลงทุนในหุ้น แม้จะมีความเสี่ยง แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง ควรศึกษาข้อมูล และเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี
-
กองทุนรวม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง โดยมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยดูแล
-
พันธบัตร: มีความเสี่ยงต่ำ และให้ผลตอบแทนที่แน่นอน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนแบบปลอดภัย
-
อสังหาริมทรัพย์: เช่น การซื้อคอนโดปล่อยเช่า ที่ดิน หรือบ้าน เพื่อสร้างรายได้จากค่าเช่า หรือรอราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้นในอนาคต
-
ตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีเงินทอน 1 ล้านบาท เราอาจนำไปลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ซึ่งมีโอกาสให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี หรือเราอาจนำไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น ซื้อคอนโดปล่อยเช่า ซึ่งจะสร้างรายได้ให้เราอย่างสม่ำเสมอ
-
ปรับปรุงบ้าน: เงินทอนจากบ้านเงินเหลือ เราสามารถนำไปปรับปรุง ตกแต่ง หรือต่อเติมบ้านให้สวยงามน่าอยู่ยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านแล้ว ยังทำให้เราอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุขมากขึ้น การปรับปรุงบ้านสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น
-
ปรับปรุงโครงสร้าง: ต่อเติมห้อง ขยายพื้นที่ใช้สอย ซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด
-
ตกแต่งภายใน: ทาสีบ้านใหม่ เปลี่ยนวัสดุปูพื้น ติดตั้งวอลเปเปอร์
-
ปรับปรุงภูมิทัศน์: จัดสวน สร้างมุมพักผ่อน เพิ่มพื้นที่สีเขียว
-
ตัวอย่างเช่น เราอาจใช้เงินทอนทำครัวใหม่ เปลี่ยนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ทาสีบ้านใหม่ หรือต่อเติมห้องเพิ่ม
-
ชำระหนี้: ถ้าเรามีหนี้สินอื่นๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือหนี้รถยนต์ เราอาจนำเงินทอนไปชำระหนี้เหล่านี้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน การชำระหนี้ให้เร็วขึ้น จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และมีอิสรภาพทางการเงินมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีหนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยสูงถึง 20% ต่อปี เราควรนำเงินทอนไปชำระหนี้บัตรให้หมดก่อน เพื่อประหยัดดอกเบี้ย
-
ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน: เงินทอนที่เหลือ เราสามารถนำไปใช้จ่ายเพื่อเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวันได้ เช่น ซื้อของใช้ที่จำเป็น ท่องเที่ยวพักผ่อน หรือซื้อของขวัญให้กับตัวเองและครอบครัว ซึ่งจะช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
-
สร้างกองทุนฉุกเฉิน: เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น การเจ็บป่วย การตกงาน หรืออุบัติเหตุ การมีเงินสำรองเผื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน จะช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤตไปได้โดยไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม ซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดภาระทางการเงินในอนาคต เราสามารถเก็บเงินสำรองไว้ในรูปแบบต่างๆ เช่น
-
บัญชีเงินฝาก: ฝากประจำ ออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากแบบมีเงื่อนไขพิเศษ
-
สลากออมสิน: ให้ดอกเบี้ยและมีโอกาสถูกรางวัล
-
กองทุนรวมตลาดเงิน: มีความเสี่ยงต่ำ และให้สภาพคล่องสูง
-
ตัวอย่างเช่น เราอาจเก็บเงินทอนไว้ในบัญชีเงินฝากประจำ หรือซื้อสลากออมสิน ซึ่งจะให้ดอกเบี้ยและมีความมั่นคงสูง
สรุปวิธีการใช้ประโยชน์จากเงินทอนจากบ้านเงินเหลืออย่างชาญฉลาด
การใช้เงินทอนจากบ้านเงินเหลือให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น ขึ้นอยู่กับการวางแผนและการจัดการที่ดี เราควรพิจารณาถึงเป้าหมายทางการเงิน ความเสี่ยง และความจำเป็นของเราเอง เพื่อให้การใช้เงินทอนเป็นไปอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณควรเลือกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องการวางแผนซื้อบ้านเงินเหลือที่มีความเป็นมืออาชีพโดย AllFinanceth เราทีมงานที่พร้อมจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละบุคคลโดยเพียงคุณติดต่อ AllFinanceth ง่ายๆ เพียงกรอกข้อมูลของท่านเข้ามาได้ที่ https://www.allfinanceth.com/ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการติดต่อกลับง่ายๆ ได้ทันที
ช่องทางการติดต่อ
- ลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์ >> https://www.allfinanceth.com/
- สนใจปรึกษาฟรี Inbox >> https://m.me/allfinancethai
- อยากรู้วงเงินทันที >> https://forms.gle/NU6qsqTdZsXcYmpG9
- โทร >> 087-263-9955
- LINE OA : @229oafsj
คุณสมบัติเบื้องต้น
- เงินเดือนรับรวมผ่านธนาคาร 25,000 บาทขึ้นไป (กู้ร่วมได้)
- เป็นพนักงานประจำมีสลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน
- อายุงาน 6 เดือนขึ้นไป สามารถรู้วงเงิน ภายใน 24 ชม.
- หนี้ไม่เสียมีค้างชำระไม่เกิน 90 วัน